อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจซื้อ ถ้าคุณยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลเหล่านี้ การซื้อรถยนต์ไฟฟ้าอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนการซื้อรถยนต์เครื่องเบนซิน/ดีเซลทั่วไป เราได้สรุปประเด็นที่ควรจะต้องศึกษา หรือ พิจารณา เพื่อช่วยให้คุณได้ทำการบ้านได้ดียิ่งขึ้นก่อนเลือกตัดสินใจซื้อรถ EV
1. ตั้งงบประมาณในใจ
รถยนต์ไฟฟ้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่เป็นมิตรกับกระเป๋า! เนื่องจากระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ซับซ้อนและชุดแบตเตอรี่ที่ราคาแพง รถยนต์ไฟฟ้าจึงมีราคาสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป แม้แต่รถยนต์แฮทช์แบคไฟฟ้าขนาดเล็กก็สามารถมีราคาสูงกว่าถึงหลักแสนบาท ดังนั้นคุณควรคำนึงถึงงบประมาณของคุณก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
2. ค่าใช้จ่ายการใช้ระบบรายเดือน/รายปี
รถยนต์ไฟฟ้าติดตั้งระบบส่งกำลังและเทคโนโลยีขั้นสูงที่ซับซ้อน และผู้ผลิตมักจะปรับปรุงรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีล่าสุดผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ ดังนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับการอัปเกรดซอฟต์แวร์เป็นประจำหลังจากซื้อ EV ผู้ผลิตบางรายเสนอการปรับปรุงซอฟต์แวร์เป็นประจำโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในขณะที่บางรายเรียกเก็บเงินจากเจ้าของสำหรับการอัปเดต ดังนั้นค่าใช้จ่ายการใช้ระบบจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณควรจะต้องรู้ตัดสินใจเลือก
3. ระยะการขับขี่ (driving range) และ ความจุของแบตเตอรี่ (Battery capacity)
เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญที่สุด! อย่าพึ่งพาตัวเลขระยะการขับขี่ที่ระบุโดยผู้ผลิต ให้ลองอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับระยะการขับขี่ของ รถ EV ในแต่ละรุ่น โดยปกติแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าควรมีระยะการขับขี่มากกว่า 100 กม. ซึ่งเพียงพอสำหรับการขับขี่ในแต่ละวัน รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์มีระยะการขับขี่มากกว่า 400 กม.
ตัวอย่างข้อมูลของรถ EV ที่นิยมในประเทศไทย
BYD ATTO 3 ขับขี่ได้ 410 km / 480 km
MG 4 Electric ขับขี่ได้ 400 km
Tesla Model 3 (Standard) ขับขี่ได้ 448 km
4. ตัวเลือกการชาร์จ และ ความสะดวกในการชาร์จ
รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมกับตัวเลือกการชาร์จที่หลากหลาย เช่น การชาร์จแบบเร็ว (DC) การชาร์จแบบมาตรฐาน (AC) และการชาร์จแบบช้า
หากคุณสามารถติดตั้งที่ชาร์จได้ภายในที่อยู่อาศัยของคุณ หรือ สามารถที่ชาร์จในที่ทำงาน คุณน่าจะได้รับความสะดวกสบายในการขับขี่มากขึ้น เพราะไม่ต้องพึ่งพาที่ชาร์จสาธารณะบ่อยๆ ซึ่งอาจจะทำให้ไม่สะดวกเท่าไหร่
5. บริการและการดูแลหลังการขาย
อย่าลืมสอบถามระยะเวลาประกัน และ ความครอบคลุมของการประกัน!! ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่เสนอการรับประกันหลายปีสำหรับชุดแบตเตอรี่ และติดตั้งที่ชาร์จติดผนังในตำแหน่งที่คุณต้องการ ศูนย์บริการจะมีผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมเพื่อให้บริการรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น ควรเลือกแบรนด์ที่ให้การสนับสนุนหลังการขายที่ดีเสมอ เพื่อประสบการณ์การเป็นเจ้าของที่ดี
6. รายละเอียดจุกจิกต่างๆที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ค่าประกันของรถ EV เมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป ปัจจุบันนี้ค่าใช้จ่ายในการประกันรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ในด้านที่สูงขึ้นเนื่องจาก EVs มีราคาแพง และ ยังเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่ ดังนั้น ควรพิจารณาค่าประกันภัยรถยนต์ที่สูงขึ้นก่อนเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า